YLG ชี้ทองคำลุ้นทดสอบ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง เหตุนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เกิดปรากฎการณ์ Sell America
วายแอลจีชี้ ในภาพระยะกลางราคาทองคำเริ่มกลับมายืนเหนือ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หลังนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเกิดปัญหาจากการขาดดุลงบประมาณ เคราะห์ซ้ำสถาบันการเงินสหรัฐโดนหั่นเครดิตเรตติ้งหลังก่อนนี้หั่นเครดิตประเทศ ส่งผลเกิดเหตุการณ์ Sell America เทขายสินทรัพย์การลงทุน ทั้ง พันธบัตร หุ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐ มั่นใจปีนี้ทองคำเป็นขาขึ้นในระยะยาว คงเป้าหมายปีนี้ไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทองคำในประเทศคงเป้าหมาย 55,000 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากนักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมไปถึงจากสถานการณ์ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์
แนะนักลงทุน ในช่วงนี้ยังคงเน้นการซื้อ-ขายทำกำไรระยะสั้น ส่วนคนอยากสะสมทองคำในรูปแบบเงินดอลลาร์แนะนำลงทุนทองคำผ่าน Gold Wallet บนแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ซื้อทองเริ่มต้นเพียง 0.1 ออนซ์ สะสมทองคำด้วยเงินบาทแนะนำแอปฯ Get Gold โดย YLG สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เริ่มต้นเพียง 100 บ. สามารถเทรดเพื่อเก็งกำไร และลงทุนแบบ DCA
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำเริ่มกลับมายืนเหนือ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาแกว่งตัวจากการขายทำกำไรรับข่าวสถานการณ์ตึงเครียดหลายด้านผ่อนคลายลงทั้งการร่างข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่กับยูเครนกำลังมีความคืบหน้า อย่างไรก็ดีล่าสุดราคาทองคำได้รับความสนใจอีกครั้งจากแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ ส่งผลให้เกิดกระแส Sell America หรือ การขายการลงทุนในสินทรัพย์สหรัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ, หุ้นสหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับมีความเคลื่อนไหวของอิสราเอลที่ยังเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางฝั่งรัสเซีย-ยูเครน แม้กำลังอยู่ในช่วงความหวังในการเจรจาสันติภาพ แต่ล่าสุดทางรัสเซียยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (25 พ.ค.) ซึ่งทำให้ "โดนัล ทรัมป์" แสดงความไม่พอใจอย่างมาก พร้อมส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย ปัจจัยเหล่านี้จึงช่วยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ดีสถาบันการเงินชั้นนำในต่างประเทศได้ประเมินว่าปรากฎการณ์ Sell America ถือว่าเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น โดยความกังวลรอบนี้ถูกกระตุ้นจากบริษัทจัดอันดับเครดิต มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody's) ที่ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของสหรัฐ จาก Aaa เป็น Aa1 และประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐ โดยระบุว่าการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐเพื่อให้สอดคล้องกับระดับหนี้สิน อีกทั้งยังมีร่างกฎหมายที่ต้องจับตา ซึ่งถูกผลักดันโดย "ทรัมป์" ให้ปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสหรัฐ และกำลังอยู่ในกระบวนการในสภาคองเกรส หลังโหวตผ่านสภาล่างแล้ว และหากสำเร็จจะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 36.9 ล้านล้านดอลลาร์
จากสถานการณ์ความกังวลต่อเศรษฐกิจจากภาระหนี้สินของสหรัฐ และประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มากระตุ้นความผันผวน ส่งผลให้เงินทุนกลับมาไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ โดย YLG มองว่าราคาทองคำปีนี้ภาพรวมจะยังคงเป็นขาขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าระหว่างทางจะมีแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ แต่หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 3,250-3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก็จะยังไม่เสียโมเมนตัมขาขึ้นในระยะกลาง โดยยืนยันเป้าหมายระดับราคาของทองคำปีนี้จะไปได้ถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ตามเดิม ส่วนทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มองเป้าหมายที่ 54,000-55,000 บาทต่อบาททองคำ (โดยคำนวนจากค่าเงินบาทในช่วง 32.50-33.10 บาทต่อดอลลาร์)
ข่าวโดย:
ภาติยา ภิรมณณ์กุล (ตี้) โทร 089 689 4900 email : bhatiya.te@gmail.com
ภัณฑิรา แจงวาณิชย์ (ซิน) โทร 088 835 4587 email : xin.wealthmeup@gmail.com
Bhatiya Bhiramonkul
089 6894900
No comments